( ขงเบ้งคิดแผนยุทธศาสตร์หลงจงจริงหรือไม่ )
เมื่อจะกล่าวถึงยอดคนในประวัติศาสตร์สามก๊กที่อาจจะเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงในเรื่องของความรอบรู้ในทุกศาสตร์และทุกแขนงคงจะหนีไม่พ้นยอดคนที่ชื่อว่าขงเบ้งยอดกุนวือแห่งจีกก๊กผู้ที่ทำให้ชายที่ทอเสื่อขายอย่างเล่าปี่ที่รบพ่ายแพ้มาหลายสิบปีได้ขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งจ๊กก๊กและก็เป็นก๊กที่คานอำนาจกับวุยกีกและง่อก๊กได้อย่างเห็นเลือดเห็นเนื้อ
ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เล่าปี่ได้เป็นใหญ่ได้นั้นถ้าหากขาดแผนยุทธศาสตร์หลงจงของขงเบ้งไปแล้วไซร์มีหรือที่คนทอเสื่อขายอย่างเล่าปี่จะสามารถเป็นใหย่ในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊กได้และวันนี้ผู้เขียนคงจะไม่ได้มาเล่าประวัติสาสตร์ในเรื่องนี้ให้ผู้อ่านได้อ่านกันครับแต่วันนี้ผู้เขียนจะมาเขียนถึงแผนยุทธสาสตร์หลงจงว่าจริงๆแล้วขงเบ้งเป็นคนคิดก่อนเป็นคนแรกจริงหรือไม่พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของแผนนี้ให้ผู้อ่านได้ร่วมศึกษาไปด้วยกันครับ
1. ประวัติขงเบ้งโดยสังเขป
ขงเบ้ง มีชื่อรองว่า จูกัดเหลียง ( จูเก่อเหลียง )
ขงเบ้งเกิดที่อำเภอหยางตู ( หยังตู ) เมืองหลังหยา ( หลังเอ๋ย์ )
ในปัจจุบันนี้คืออำเภอจูเฉิง มณฑลชานตง ( ซานตุง ) ขงเบ้งสืบสกุลมาจากจูเก๋อฟง
สามก๊กบางเล่มว่าจูเก๋อกุยก็มี จุกัดกุยก็มี ไม่สามารถชี้ขาดได้ว่าใครถูกใครผิด
แต่ที่แน่นอนก็คือ เขาเป็นบุตรคนที่ 4
ของบิดา ซึ่งรับราชการเป้นปลัดเมืองไท่ซาน ( ขุนเขาใหญ่ )
ส่วนมารดาของเขาชื่อเจียงซื่อ ( เจียงสี ) แซ่จูเก๋อ ( จูกัด )
ชื่อที่แท้จริงของขงเบ้ง คือ เหลียงหรือเลี่ยง จึงมีคนเรียกว่า จูกัดเหลียง
2. ยุทธศาสตร์หลงจงแผนการสะท้านแผ่นดิน
สิ่งที่เป็นที่กล่าวขวัญเลื่องลือมาในประวัติศาสตร์สามก๊กที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเล่าปี่นั่นก็คือการแนะนำบุคคลสำคัญจากซีซีและสุมาเต็กโชให้แก่เล่าปี่ถึงบุคคลผู้ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเล่าปี่จากผู้ที่ไม่มีเมืองและที่ตั้งมั่นเป็นของตนเองจนได้กลายมาเป็นหนึ่งในสามก๊กในเวลาต่อมาบุคคลผู้นั้นก็คือ
‘’ ขงเบ้ง ‘’ เล่าปี่ต้องเดินทางไปหาขงเบ้งถึง
3 ครั้ง 3 คราถึงจะได้ประสบพบเจอกับท่านอาจารย์มังกรหลับในครั้งที่สามทีเล่าปี่ได้พบกับขงเบ้งนั้นคือการพบกันครั้งสำคัญที่ได้เบิกพระเนตรของเล่าปี่ถึงแผนยุทธศาสตร์ในการเป็นมหาอำนาจของเล่าปี่แผนนั้นมีชื่อว่า
‘’ ยุทธศาสตร์หลงจง ‘’
( ว่าด้วยเรื่องยุทธศาสตร์หลงจง )
ขงเบ้งกับเล่าปี่ได้พุดคุยกันเรื่องยุทธศาสตร์หลงจงซึ่งมีข้อความ
ดังนี้
นับตั้งแต่ตั๋งโต๊ะ
(ต่งจั่ว) เผด็จการเป็นต้นมา ผู้แกล้วกล้าต่างตั้งตัวเป็นใหญ่ไปทั่ว
ผู้ที่ยึดครองได้ไม่กี่เมืองมีมากนับไม่ถ้วนโจโฉเมื่อเทียบกับอ้วนเสี้ยว
ชื่อเสียงด้อยกว่า กำลังทหารน้อยกว่า แต่โจโฉกลับชนะอ้วนเสี้ยว
มิใช่เพราะโอกาสดีเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากสติปัญญาทางการเมืองอันสูงส่ง
ขณะนี้โจโฉมีไพร่พลร้อยกว่าหมื่น
อีกทั้งเชิดฮ่องเต้เป็นหุ่นบังคับบัญชาหัวเมืองทั้งปวง ไม่อาจต่อสู้ชิงชัยด้วยได้
ส่วนซุนกวนยึดครองเมื่องกังตั๋งมาตั้งแต่พ่อและพี่ถึงสามชั่วคนแล้ว
กังตั๋งชัยภูมิดี ราษฎรจงรักสามัคคี คนเก่งเรืองปัญญาได้ทำงานสำคัญ
เราผูกมิตรด้วยได้ แต่จะยึดครองไม่ได้
เกงจิ๋วด้านเหนือคุมแม่น้ำฮั่นกับแม่น้ำเหมี่ยนสองสาย
ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ตะวันออกเชื่อมต่อเมืองง่อกุ๋น
(อู๋จวิ้น-มณฑลเจียงซู) และเมืองห้อยเข (ไคว่จี-มณฑลเจ้อเจียง)
ตะวันตกทะลุไปถึงปาและจ๊ก (สู่) ทั้งสองเมือง (คือมณฑลเสฉวน)
เกงจิ๋วจึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่นักการทหารต้องแย่งชิงกัน
แต่เล่าเปียวไม่มีกำลังความสามารถที่จะปกครองได้
เป็นดินแดนที่สวรรค์ส่งมาช่วยท่านขุนพล (เล่าปี่)
มณฑลเอ๊กจิ๋วนั้นชัยภูมิคับขันเข้าตียาก พื้นที่อุดมสมบยูรณ์กว้างใหญ่ เป็นปัจจัยทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยมองค์ปฐมวงศ์ฮั่นโกโจ
(ฮั่นเกาจู่) อาศัยถิ่นนี้เป็นที่มั่นจึงตั้งตัวเป็นกษัตริย์สำเร็จ เล่าเจี้ยง
(หลิวจาง) ข้าหลวงมณฑลเอ๊กจิ๋วเป็นคนขลาดเขลาเบาปัญญา เตียวฬ่อ (จางหลู่)
ยึดครองฮันต๋ง (ฮั่นจง) อยู่ทางเหนือ ผู้คนมากทรัพยากรอุดม บ้านเมืองเข้มแข็งรุ่งเรือง
แต่ตัวเขาไม่รู้จักรักประชาชน
ผู้มีปัญญาความสามารถทั้งหลายต่างคิดอยากได้ประมุขผู้ประเสริฐปรีชาท่านขุนพลเป็นเชื้อสายกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น
ความกล้าหาญเสียสละและเกียติคุณอันน่าเชื่อถือขจรขจายไปทั่วแผ่นดิน
หากท่านยึดเก็งจิ๋วและเอ๊กจิ๋วสองมณฑลนี้ไว้ อาศัยชัยภูมิที่เข้าตียากตั้งมั่นอยู่
ผูกไมตรีกับชนชาติส่วนน้อยทางตะวันตกและใต้ จัดการปกครองภายในให้ดี
หากสภาวการณ์ในแผ่นดินเปลี่ยนแปลง ค่อยให้แม่ทัพคนหนึ่งยกทัพออกจากเกงจิ๋ว
ตีผ่านเมืองลำหยง (หนันหยาง) ไปถึงลกเอี๋ยง (ลั่วหยาง) ส่วนตัวท่านขุนพลยกทัพออกจากเอ๊กจิ๋วเข้าตีฉินชวน
จะมีราษฎรคนไหนกล้าไม่ยินดีต้อนรับท่าน หากเป็นดังแผนนี้การปราดาภิเษกก็จะสำเร็จ
อำนาจของราชวงศ์ฮั่นก็จะกลับฟื้นคืนมา
3. โลซกชายผู้ที่คิดแผนยุทธศาสตร์คล้ายหลงจงก่อนหน้าขงเบ้ง
โลซก หรือ หลวี่ซู่ ( Lu Su ) ชื่อรอง จื่อจิ้ง ( Zizing ) เกิดปี ค.ศ. 172 เป็นชาวตงเฉิง เมืองหลินห้วย มณฑลชีจิ๋ว เมื่อวัยเยาว์เขาต้องสูญเสียบิดาไป จึงต้องอยู่ในการเลี้ยงดูของย่าแทน โลซกเติบโตขึ้นมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี ชอบการรำกระบี่ ขี่ม้า ยิงธนู รอบรู้ในกลอุบายเมื่อเติบใหญ่ได้ทำการค้าขายแล้วประสบความสำเร็จมั่งคั่งขึ้นไปอีก แต่โลซกก็มักช่วยเหลือจุนเจือผู้ยากไร้โดยไม่เสียดายอยู่เสมอ
แผนยุทธศาสตร์ของโลซกที่ได้เสนอและพูดคุยกับซุนกวนนั้นมีชื่อว่า '' แผนยุทธศาสตร์สามขาค้ำกังตั๋ง '' โดยแผนยุทธศาสตร์นี้โลซกได้เสนอแก่ซุนกวนก่อนหน้าแผนยุทธศาสตร์หลงจงที่ขงเบ้งเสนอแก่เล่าปี่ซึ่งมีระยะห่างกันถึง 7 ปี โดยแผนยุทธศาสตร์ของโลซกนั้นมีความคล้ายคลึงกับแผนยุทธศาสตร์หลงจงของขงเบ้งมากๆแต่ก็มีความแตกต่างกันบ้างแต่ถึงกระนั้นพื้นฐานของแผนยุทธศาสตร์ทั้งสองนี้ก็มีความคล้ายคลึงกัน
แผนยุทธศาสตร์ของโลซกที่ได้เสนอแก่วุนกวนมีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้
โลซกมีความเห็นว่า โจโฉอยู่ในฐานะผู้ควบคุมพระมหากษัตริย์อันได้เปรียบ ราชวงศ์ฮั่นไม่มีวันกลับฟื้นคืนสภาพเดิม อำนาจของโจโฉนั้นยังไม่สามารถล้มล้างได้ ความฝันที่จะรวมแผ่นดินของซุนกวนก็ยังไม่อาจเป็นจริง ทางเลือกที่ดีที่สุดคือยึดครองกังตั๋ง รอจังหวะเหมาะ ฉวยโอกาสที่โจโฉรุกลงใต้ไม่หยุด รีบตีชิงเกงจิ๋วของเล่าเปียวหลังจากนั้นจึงค่อยตั้งตัวเป็นกษัตริย์แล้วค่อยๆ รวบรวมแผ่นดินไปทีละขั้น
เราอาจจะสรุปได้ว่าแผนยุทธศาสตร์หลงจงของขงเบ้งนั้นขงเบ้งอาจจะไม่ใช่ผู้เสนอเป็นคนแรกเพราะโลซกได้เสนอแผนยุทธศาสตร์ที่มีความคล้ายคลึงกับแผนยุทธศาสตร์ของขงเบ้งไว้ก่อนหน้านั้นซึ่งทิ้งระยะห่างถึง 7 ปีและอาจจะสรุปได้ว่าแผนยุทธศาสตร์ทั้งสองนั้นถึงจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันแต่เนื้อหาและพื้นฐานนั้นล้วนมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างยิ่ง
4. แผนยุทธศาสตร์หลงจงล้มเหลวเพราะอะไร
สาเหตุที่ทำให้แผนยุทธสาสตร์หลงจงของขงเบ้งล้มเหลวนั้นมีหลายปัจจัยด้วยกันซึ่งผู้เขียนสามารถแบ่งวิเคราะห์ได้ถึง 3 ปัจจัยหลักแห่งความล้มเหลวของแผนยุทธศาสตร์หลงจงไว้ ดังนี้
ปัจจัยที่ 1 เสียเมืองเกงจิ๋ว
เมืองเกงจิ๋วได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพราะเมืองเกงจิ๋วนั้นอยุ่ตรงกลางของแผนที่โดยทางเหนือมีวุยก๊กของโจโฉทางใต้มีซุนกวน
![]() |
เมืองเกงจิ๋วอยู่ในอาณาเขตสีฟ้า |
โดยเล่าปี่ก่อนที่จะได้เมืองเก่งจิ๋วนั้นตามแผนยุทธศาสตร์หลงจงแผนขั้นแรกก็คือการยึดครองเกงจิ๋วเป็นฐานที่มั่น เมืองเกงจิ๋วนั้นเป็นเมืองที่สามารถทำการยกทัพบุกขึ้นเหนือหรือลงมาตั้งรับก็ได้เพราะเป็นเมืองที่มียุทธสาสตร์ที่เหมาะสมในการทำการใหญ่แต่แล้วโชคก็ไม่อำนวยให้แก่เล่าปี่โดยภายหลังจากที่เล่าปี่ได้ตั้งตนเป็นใหญ่และสามารถยึดดินแดนเสฉวนจากเล่าเจี๊ยงได้และยึดฮันต๋งได้ความประมาทก็เข้ามาครอบงำจิตใจเล่าปี่อีกทั้งเมืองเกงจิ๋วกวนอูคือผู้เฝ้าเมืองความหยิ่งทรนงก็เข้ามาในจิตใจกวนอูจนทำให้กวนอูได้สร้างความบาดหมางให้กับซุนกวนจนนำมาซึ่งการเสียเมืองเกงจิ๋วให้แก่ซุนกวนอีกทั้งยังเสียหัวกวนอูไปในคราเดียวกันโชคซ้ำแรกผ่านไปไม่นานเล่าปี่โกรธจนยกทัพมหาศาลไปบุกง่อก๊กแต่กลับพ่ายแพ้ในศึกที่อิเหลงจนทำให้กองทัพธรรมของเล่าปี่นั้นเหลือแต่ชื่อในศึกครานั้นและก็ทำให้เสียทั้งทรัพยากรหลายๆอย่างไปอย่างมากมายและก็เสียคนเก่งไปมากเช่นกันอีกด้วย
ดังนั้น เมืองเกงจิ๋วซึ่งถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์หลงจงเมื่อเสียไปแล้วแผนการอันล้ำเลิศนี้จึงถูกลดทอนโอกาสของความสำเร็จลงไปอย่างมหาศาลโดยยากที่จะได้เมืองเกงจิ๋วกลับคืนมาได้
ปัจจัยที่ 2 เสียบังทอง
บังทองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดคนที่เทียบเคียงกับขงเบ้งในยุคสามก๊กเลยก็ว่าได้เพราะความฉลาดของบังทองนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าขงเบ้งเลยด้วยซ้ำแต่อนิจจาบังทองได้ชื่อว่าเป็นยอดกุนซือที่อายุสั้นกลับสิ้นชีพในศึกสงครามระหว่างทางที่เล่าปี่กำลังยกทัพไปเพื่อยึดดินแดนเสฉวนและก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ขงเบ้งต้องกุมงานหนักน้อยใหญ่ไว้คนเดียวแต่ถ้าเรามองกลับกันถ้าบังทองยังมีชีวิตอยู่ด้วยแล้วไซร์การกระจายอำนาจในจ๊กก๊กก็อาจจะเกิดขึ้นและขงเบ้งก็อาจจะไม่อายุสั้นจนต้องมาล้มป่วยตายในศึกยกทัพขึ้นเหนือในการศึกที่ต้องเผชิญหน้ายอดคนอย่างสุมาอี้ก็เป็นได้
ปัจจัยที่ 3 ขงเบ้งดันทุรัง
ในการยกทัพขึ้นเหนือของขงเบ้งที่ในการจะรวบรวมแผ่นดินนั้นผู้เขียนอาจจะเรียกว่าเป็นแผนการฆ่าตัวตายและดันทุรงที่สุดเพราะนอกจากเมืองเกงจิ๋วยังตกไปอยู่กับซุนกวนแล้วทั้งทรัพยากร กำลังทหารและปัจจัยอื่นๆก็ล้วนเป็นรองวุยก๊กทั้งสิ้นเมื่อมองภาพรวมแล้วแผนการยกทัพขึ้นเหนือนั้นนอกจากจะมีโอกาสสำเร็จที่น้อยแล้วจากความดันทุรังของขงเบ้งที่ต้องการยกทัพเพื่อสานต่ออุดมการในการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นแล้วด้วยนั้นจึงเปรียบเสมือนกับระเบิดเวลาที่จะทำให้จ๊กก๊กนั้นต้องเป็นก๊กแรกที่มาล่มสลายลงในเวลาต่อมาเหตุเพราะว่าในการยกทัพขึ้นเหนือทั้ง 6 ครั้งนั้นจ๊กก๊กต้องเสียทรัพยากรต่างๆไปอย่างมหาศาลอีกทั้งยังเป็นการยกทัพไปบุกบ้านคนอื่นด้วยแล้วจึงยิ่งทำให้ฝ่ายวุยก๊กเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดตรงกันข้ามกับจ๊กก๊กที่ต้องคอยส่งเสบียงมาเสริมกองทัพอย่างสม่ำเสมออีกทั้งการส่งเสบียงนั้นก็ยังมามีปัญหาในเรื่องของความยากลำบากซ้ำเข้าไปอีกด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้ก็พอจะสรุปภาพรวมได้ว่าแผนยุทธศาสตร์หลงจงแทบไม่มีโอกาสที่จะทำให้สำเร็จได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น